อาการ ปวด สามารถเกิดขึ้นได้สำหรับหญิงตั้งครรภ์ทุกคนนะคะ จะมีแค่ว่า แม่ท้องคนไหนปวดน้อย หรือปวดมากนั้นเอง ซึ่งอาการปวดก็จะมีแบบที่ไม่เป็นอันตรายกับแบบที่เป็นอันตราย แล้วแต่สรีระและฮอร์โมนในร่ายกายของแต่ละคน ช่วงอายุของการตั้งครรภ์ก็มีผล สำหรับอาการ ปวด นี่เหมือนกัน มาดูกันคะ ว่าแม่ท้องเนี้ย ปวด อะไรบ้าง
1. ปวด ศีรษะ เป็นการปวดที่แม่ท้องหลายคนปวดกัน จะมีอาการปวดเกร็ง ปวดดื้อๆ หรืออาจจะปวดร้าวมาที่ต้นคอ สำหรับแม่ท้องที่เป็นไมเกรนอยู่ก่อนแล้ว อาจจะมีอาการปวดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเป็นอันตรายสำหรับแม่ท้องเลยละคะ
- สาเหตุ ก็เกิดจากปริมาณเลือดในร่างกายที่เพิ่มขึ้นเยอะ เลือดส่วนหนึ่งจะถูกส่งไปเลี้ยงลูกน้อย เส้นเลือดที่เป็นท่อจะมีน้ำไหลผ่านเยอะๆ เส้นเลือดก็จะมีการตึงตัว ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะนั้นเอง นอกจากนี้ก็อาจจะเกิดจากการที่แม่ม้องพักผ่อนไม่เพียงพอ ยิ่งอายุครรภ์มากๆ อาการนอนไม่หลับจะเป็นบ่อยมาก พลิกซ้ายพลิกขวาก็ไม่หลับสักที ท้องยิ่งโตจะยิ่งอึดอัด หายใจไม่ค่อยสะดวก เมื่อนอนพักไม่เพียงพอ อาการปวดศีรษะก็ถามหา เหมือนกันคะ
- วิธีแก้ปวด เมื่อกลางคืนทำให้เรานอนไม่หลับ ก็ควรหาเวลาว่างช่วงกลางวันพักผ่อนด้วย อายุครรภ์มากขึ้น ให้ใช้หมอนรองที่ท้อง ควรนอนตะแคงซ้ายหรือตะแคงขวาสลับกัน อาจจะใช้หมอนหนุนหัวให้สูงๆด้วยก็ได้
2.
ปวดหน้าอก ก็คือปวดเต้านม โดยจะมีออาการคัดตึง หรือว่าเจ็บๆ บริเวณเต้านม คล้ายกับช่วงที่มีประจำเดือน
- สาเหตุ เพราะในการตั้งครรภ์ ร่างกายคุณแม่จะมีการสะสมและสร้างต่อมน้ำนม เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับลูกน้อยที่จะเกิดมา จึงทำให้เกิดการคัดตึงอย่างรวดเร็ว
- วิธีแก้ปวด ก็คือการใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นๆประคบไว้ที่เต้านม จะช่วยลดอาการปวดได้คะ
3.
ปวดท้องน้อย เป็นการปวดแบบหน่วงๆ คุณแม่บางคนอาจจะปวดถึงอวัยวะเพศได้ จะปวดเหมือนกับช่วงที่ปวดประจำเดือน
- สาเหตุ เกิดจากการที่มดลูกมีขนาดใหญ่ขึ้น และมีเลือดมาเลี้ยงบริเวณนั้นมาก ทำให้มดลูกบวม จนเกิดอาการปวดหน่วงๆขึ้นมา จะเกิดในช่วงไตรมาสหลังๆของการตั้งครรภ์ เพราะมดลูกเคลื่อนที่ต่ำลงมา
- วิธีแก้ปวด หากเกิดอาการปวดท้องน้อยขึ้นมา ก็ให้คุณแม่นั่งพัก หรือว่านอนพัก สังเกตุดูอาการถ้าหากว่าเบาลงก็แปลว่าไม่เป็นอันตรายคะ
4.
ปวดขา เป็นการปวดที่เกิดได้สำหรับคุณแม่ท้องทุกคนเลย ยิ่งท้องโตด้วย ยิ่งปวดง่ายมาก เดินนิดเดียวก็ปวดแล้ว เพราะว่าขาต้องรับน้ำหนักตัวคุณแม่ที่เพิ่มขึ้น เกิดจากการที่ปวดตามกล้ามเนื้อและเส้นเลือด
- สาเหตุ เกิดจากขาของคุณแม่ที่ต้องรับน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นมาก มดลูกที่ใหญ่ขึ้นจะไปขวางทางเดินของเส้นเลือด ทำให้เลือดไหลไม่สะดวก ดำโป่งพองขึ้น
- วิธีแก้ปวด ให้คุณแม่นั่งหรือว่านอนแล้วยกขาสูงกว่าหัวใจ เพื่อช่วยการไหลเวียนของเลือด
5.
ปวดริดสีดวง คุณแม่ท้องเกือบจะทุกคนจะมีอาการท้องผูก ถ่ายไม่ค่อยออก เวลาถ่ายก็จะออกแรงเบ่งมากๆ ทำให้เกิดอาการเจ็บๆ ปวดๆ บริเวณทวารหนัก ซึ่งคุณแม่ท้องจะเป็นริดสีดวงได้ง่ายกว่าปกติ
- สาเหตุ เกิดจากการที่คุณแม่ท้องผูก แล้วเวลาที่เบ่งนั้นเส้นเลือดดำ บริเวณริดสีดวงจะไหลเวียนเลืิอดย้อนกลับ แต่เจอมดลูกขวางไว้ ทำให้เลือดไหลไม่สะดวก เกิดการโป่งพองขึ้นมา และเวลาที่ท้องผูก แรงดันบริเวณทวารหนักจะมากขึ้น เส้นเลือดโป่งพองมากขึ้น ถ้าเส้นริดสีดวงแตก เลือดไหล อาจจะเกิดการตกเลือดได้คะ
- วิธีแก้ปวด ดูแลตัวเอง เรื่องอาหารการกิน ให้กินจำพวกผลไม้ให้เยอะๆ ในช่วงมื้อเย็นๆ พร้อมกับการดื่มน้ำเยอะๆและทุกๆเช้าหมั่นเข้าห้องน้ำเป็นประจำ เป็นการฝึกให้กล้ามเนื้อหูรูดทำงานทุกวันคะ
6.
ปวดที่หน้าอกหรอที่ลิ้นปี่ จะมีอาการปวดแบบว่า แน่นๆ จุกเสียด เกิดจากหลังที่กินอาหารอิ่มใหม่ๆ
- สาเหตุ เกิดจากการที่ร่างกายคุณแม่ย่อยอาหารไม่ทัน ฮอร์โมนจากการที่ตั้งครรภ์นี้ ทำให้เกิดการบีบตัวของทางเดินอาหารช้าลงกว่าคนปกติ จึงเกิดอาการเหมือนจุกแน่นขึ้นมา
- วิธีแก้ปวด เวลาที่คุณแม่กินอาหารแต่ละครั้ง ให้กินอาหารที่ย่อยง่ายๆและกินครั้งละน้อยๆแต่ให้กินบ่อยๆ เพื่อช่วยกระเพาะอาหารย่อยได้เร็วขึ้น
7.
ปวดเมื่อยตัวช่วงใกล้คลอด- สาเหตุ เกิดจากการบวมน้ำ เพราะธรรมชาติมีการเอาน้ำมาสะสมไว้ในเซลล์ต่างๆช่วงใกล้คลอด เพราะคุณแม่จะเสียเลือดเยอะมาก ปริมาณน้ำเลือดจะลดลง ความดันโลหิดจะตก จะเกิดอันตรายได้ ธรรมชาติจึงเอาน้ำไปซ่อนไว้ในเซลล์ที่อยู่รอบๆเส้นเลือด คุณแม่ไม่ต้องตกใจว่าทำไมถึงบวมขึ้น หลังคลอดแล้วร่างกายจะขับออกไปค่ะ
- วิธีแก้ปวด เอามือจุ่มน้ำอุ่นๆ 5- 10 นาที หรือว่ายกเท้าให้สูงๆจะลดอาการบวมลงได้
8.
การปวดที่ไม่มีสาเหตุ อาจจะเกิดจากการนอน การเดิน การยืน ที่ผิดท่า ให้คุณแม่พักผ่อนให้เยอะๆ ทำจิตใจให้สบาย อาการเหล่านี้จะหายไปเองคะ