- วัยแรกเกิด - 1 สัปดาห์ เจ้าตัวเล็กจะเอาแต่นอนและก็นอนคะจะนอนวันละประมาณ 16 ชั่วโมง แถมยังนอนไม่เป็นเวลา ตื่นบ่อย นอนไปซัก 2-3 ชั่วโมง จะตื่นอยู่ 1-2 ชั่วโมง แล้วก็หลับต่ออีก ซึ่งเป็นช่วงที่ลูกน้อยปรับตัวให้รู้จักการนอนมากขึ้นเรื่อยๆ
- 1-2 เดือน ลูกน้อยจะนอนหลับน้อยลงนิดหน่อย ประมาณ 15-16 ชั่วโมง มีตื่นมากลางดึกบ้าง แต่จะไม่บ่อยเหมือนแรกเกิด
- 2-3 เดือน ลูกน้อยจะนอนประมาณ 15 ชั่วโมงครึ่ง เริ่มนอนเป็นเวลามากขึ้น แต่จะยังคงตื่นบ่อยอยู่บ้าง
- 3-6 เดือน ลูกน้อยจะนอนประมาณ 15 ชั่วโมง กลางคืนนอนประมาณ 10 ชั่วโมง ตื่นมากินนมประมาณ 3-4 ชั่วโมง ลูกน้อยจะนอนเป็นเวลามากขึ้น
- 6-9 เดือน ลูกน้อยจะนอนประมาณ 14 ชั่วโมง ลดลงโดยจะนอนกลางคืนนานขึ้น กลางวัน 2 ชั่วโมงครึ่ง-3 ชั่ืวโมง จะนอนแปปๆแต่บ่อย
- 9 เดือน-1 ปี ลูกน้อยเริ่มรู้จักกลางวันกลางคืนแล้วคะ จากการนอนช่วงกลางคืนที่ยาวจนเช้า แถมยังตื่นเป็นเวลาอีกด้วย นอนกลางวันน้อยลง ประมาณวันละ 13 ชั่วโมง
วันจันทร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2553
การนอนหลับ กับ พัฒนาการของลูกน้อย
วันพฤหัสบดีที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2553
อาหารบำรุง กระดูก ช่วงตั้งครรภ์
- นมสดพาสเจอไรซ์ชนิดพร่องมันเนย เพราะว่ามีแคลเซียมสูง
- ปลาเล็กปลาน้อย จำพวก ปลาซิว ปลาข้าวสาร ปลาไส้ตัน ปลาจิ้งจั้ง หรืออาจจะเป็นกุ้งฝอย กุ้งแห้ง แทนก็ได้ ล้วนแต่แคลเซียมสูงทั้งนั้นคะ
- ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนม เช่น เนยแข็ง โยเกิร์ต
- ไข่แดง ไข่ไก่ 1 ฟองให้แคลเซียมประมาณ 126 มก.
- ผักใบเขียว เช่น บร็อคโคลี ผักโขม ใบโหระพา ยอดแค ยอดสะเดา ใบชะพลู ใบยอ ผักกระเฉด คะน้า ฯลฯ
- เมล็ดพีช เช่น เมล็ดทานตะวัน
- งาดำ ซึ่งถ้าเรากินงาดำคั่วได้ประมาณ 100 กรัม เราจะได้รับแคเซียมสูงถึง 1452 มก.
- ถั่วเหลือง ถั่วเหลืองดิบๆปริมาณ 100 กรัม จะมัแคลเซียม 245 มก.
- เผือก ในปริมาณ 100 กรัม จะมัแคลเซียมอยู่ 84 มก.
- มันเทศสีเหลือง ปริมาณ 100 กรัม จะมีแคลเซียมอยู่ 98 มก.
วันอังคารที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2553
วิธีการเลือกผ้าอ้อมสำเร็จรูป
- ขนาดของผ้าอ้อมสำเร็จรูปตามวัยของลูกน้อยอาจจะไม่ถูกต้องเสมอไปนะคะ เพราะว่าเด็กแต่ละคนอาจจะมีขนาดตัวที่ใหญ่กว่าหรือว่าเล็กกว่าวัยของลูกน้อยเองก็ได้ ไม่เท่ากัน เด็กบางคน 3 เดือน เท่ากับเด็ก 7 เดือน เด็ก 8 เดือน อาจจะเล็กกว่าเด็ก 5 เดือน ก็ได้ การเลือกก็คือ คุณแม่ จะต้องดูที่น้ำหนักของลูกน้อย ที่ระบุไว้บนห่อของฉลากสินค้านั้นๆ สำหรับเด็กแรกเกิดที่สายสะดือยังไม่หลุด ก็ให้เลือกผ้าอ้อม new born ให้สายสะดือหลุดก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนเป็นไซต์ S คะ
- การระบายอากาศของผ้าอ้อมสำเร็จรูป จะมีส่วนช่วยไม่ทำให้ผิวลูกน้อยเกิดอาการแพ้ มาจากการที่ผิวอับชื้น เพราะการที่ลูกน้อยใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปนานๆ จะทำให้ผิวไม่โดนอากาศ ทำให้อับชื้น บริเวณขาหนีบ ร่องก้น การเลือกผ้าอ้อมที่ระบายอากาศได้ดีจะช่วยให้ผิวลูกน้อยสดชื่น ไม่อับชื้นคะ
- ความนุ่มผ้าอ้อมสำเร็จรูป จะช่วยลดอาการระคายเคืองของผิวลูกน้อย และยังช่วยลดอาการแพ้ของผิวเด็ก ทำให้ลูกน้อยสบายตัวมากขึ้น หลับสบายทั้งคืน
- ช่องดูดซับอุจจาระ ให้คุณแม่เลือกผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่มีช่องดูดซับอุจจาระ เพราะว่าเด็กแรกเกิดจะถ่ายบ่อยและไม่เป็นเวลา การเลือกที่มีช่องดูดซับอุจจาระจึงมีความสำคัญมากค่ะ ขาดไม่ได้ ไม่งั้นผิวลูกน้อยจะไม่สบายตัว เกิดอาการแพ้ หรือเป็นผื่นขึ้นมาได้คะที่ก้นลูกน้อย ให้เลือกชนิดที่ไม่ไหลย้อนกลับ
- การออกแบบที่รองรับกับรูปร่างของลูกน้อย ให้คุณแม่เลือกให้เหมาะสมกับลูกน้อย อย่างเด็กแรกเกิดก็ต้องใช้ new born ขอบของผ้าอ้อมสำเร็จรูปจะทำให้เสียดสีกับสายสะดือของลูกน้อย ทำให้สายสะดือลูกน้อยอักเสบ ไม่สบายตัว การเลือกให้เหมาะสมจึงเป็นเรื่องที่สำคัญคะ
- ราคา การเลือกผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่มีคุณภาพดีในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป ก็จะทำให้คุณแม่เปลี่ยนผ้าอ้อมลูกน้อยได้บ่อยขึ้น ลูกน้อยก็จะได้สบายก้นไม่ต้องนอนแช่อุจจาระ ประหยัดทั้งคุณแม่และลูกน้อยก็สบายก้นด้วยคะ
- ความบาง หนา ของผ้าอ้อมสำเร็จรูป บางยี่ห้อ หนามากๆคะไม่เหมาะที่จะให้ลูกน้อยใส่ เพราะจะทำให้ลูกน้อยเคลื่อนไหวได้ไม่สะดวก และยังทำให้ขาลูกน้อยโก่งอีกด้วย
วันศุกร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2553
new mom กับการฝึกลูกน้อยแปรงฟัน
ทำช่วงที่อาบน้ำ ลูกน้อยจะได้รู้ว่าช่วงนี้ต้องทำอะไร เป็นการสอนเค้าไปในตัวคะนอกจากนี้ อาจจะให้เด็กเล่นแปรงสีฟันไป พร้อมกับการอาบน้ำ เด็กจะรู้สึกและเพลิดเพลิน ทำให้เด็กเคยชินง่ายขึ้น คุณพ่อคุณแม่ช่วยกันสร้างบรรยากาศ ให้ลูกน้อยรู้สึกสนุกกับการแปรงฟัน อาจจะร้องเพลง เกี่ยวกับการแปรงฟัน เช่น แปรงฟัน แปรงฟัน แปรงฟัน เด็กน้อยจะต้องแปรงฟัน ไม่อยากฟันหลอ ก็ต้องแปรงฟัน ควรขยันหมั่นแปรงเอย ร้องเป็นทำนองที่สนุกๆจะทำให้เด็กไม่เบื่อ ก่อนนอนก็อาจจะหานิทานที่เกี่ยวกับการแปรงฟันมาเล่าให้ลูกน้อยฟัง อธิบายให้ลูกฟังถึงผลเสียของการไม่แปรงฟัน ในกรณีที่ลูกโตสักหน่อยนะคะนะ
วันอังคารที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2553
เมนูสุขภาพ สำหรับ คุณแม่ตั้งครรภ์ new mom
สารอาหารที่บำรุงสมองลูก
กรดโฟลิกจำเป็นในการสร้างสมองและระบบประสาทส่วนกลางของทารกในครรภ์ โดยเฉพาะในช่วงก่อนตั้งครรภ์ถึงตั้งครรภ์ 3 เดือนแรก อาหารที่อุดมไปด้วย กรดโฟลิกก็มีผักใบเขียวเข้ม ควรกินสดๆ หรือนึ่ง หากใช้วิธีอื่นๆ ในการประกอบอาหาร กรดโฟลิกจะถูกทำลาย กล้วย ส้ม ธัญพืชต่างๆ ขนมปังโฮลวีต นม และโปรตีนจากเนื้อสัตว์ นอกจากนี้ปลาทะเลยังมีกรดไขมันที่สำคัญต่อการเสริมสร้างเซลล์ประสาท อีกด้วย มาดูกันคะว่ามีเมนูเด็ดๆอะไรกันบ้าง
เมนูสำหรับเสริมสมองลูก
- น้ำพริกปลาทู มีเครื่องเคียงเป็นชะอมชุบไข่ทอด และผักใบเขียวต่างๆเมนูนี้ได้คุณค่าจากปลาทะเลและผักใบเขียวที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อการเสริมสร้างเซลล์สมองของลูกคะ
- ผัดผักบร็อกโคลียอดคะน้าหมูสับ จะใส่หน่อไม้ฝรั่งไปด้วยก็อร่อยคะ บร็อกโคลี คะน้า และหน่อไม้ฝรั่ง เป็นผักที่อุดมไปด้วยกรดโฟลิก
- แซนด์วิชขนมปังโฮลวีตทูน่า
สารอาหารที่ช่วยให้ลูกน้อยในครรภ์สมบูรณ์แข็งแรง
โปรตีนสำคัญยิ่งต่อการเจริญเติบโตของลูกน้อย ช่วยสร้างกล้ามเนื้อ กระดูก เม็ดเลือดแดง และอวัยวะภายในต่างๆโปรตีนมีมากในเนื้อสัตว์ นม ไข่ โดยเฉพาะปลาที่มีโปรตีนคุณภาพสูง นอกจากโปรตีนแล้ว แคลเซียมยังมีความสำคัญต่อการสร้างกระดูกและฟันของลูก มีมากในนม ไข่ ปลาไส้ตัน กุ้งฝอย ชะพลู คะน้า เห็ดหูหนู สายบัว ใบตำลึง ผักกระเฉด
เมนู ลูกแข็งแรง
- ยำสามสหาย ซึ่งมีกุ้ง ผักกระเฉด แล้วมีเนื้อปลาอีกด้วยคะ
- ยอดฟักทองผัดไข่ หรือผัดสายบัวหมูสับ
- แกงจืดเต้าหู้หมูสับ ใส่ผักต่างๆ ใบตำลึง ผักกาดขาว ยอดฟักทอง
- เส้นหมีราดหน้า เติมไก่ คะน้า เห็ดหูหนู ข้าวโพดอ่อน
สารอาหารที่บำรุงเลือด
ยิ่งลูกน้อยในครรภ์เติบโตขึ้นเท่าไหร่ ลูกก็ยิ่งต้องการเลือดเพื่อนำไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆของร่ายกายมากขึ้น คุณแม่จึงต้องการธาตุเหล็ก เพื่อไปสร้างเม็ดเลือดแดงให้กับร่างกาย แถมยังต้องเตรียมเลือดไว้ตอนที่คลอดลูกน้อยอีกด้วย ซึ่งถ้าหากคุณแม่ขาดธาตุเหล็กจะรู้สึกอ่อนเพลีย วิงเวียน หน้ามืด นั้นเพราะว่ามีเม็ดเลือดแดงที่นำออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงร่างกายน้อย ธาตุเหล็กจะมีมากในเนื้อแดง เครื่องในสัตว์ ตับ ไข่แดง ใบกระเพรา หัวปลี ถั่วฝักยาว การได้รับวิตามินซีอย่างเพียงพอ จะทำให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดียิ่งขึ้น แต่ธาตุเหล็กจะทำให้ร่างกายดูดซึมสังกะสีได้น้อยลง ดังนั้น คุณแม่ควรจะกินอาหารที่มีสังกะสีเพิ่ม เช่น เนื้อปลา ปลาหมึก หอยนางรมและอาหารทะเลอื่นๆด้วยคะ
เมนูบำรุงเลือด
- ไข่เจียวใบกระเพรา อร่อย มากมายคะ
- ผัดกระเพราใส่ตับ อุดมไปด้วยธาตุเหล็กคะ
- แกงเลียงหัวปลี ใส่ปลาหมึก หรืออาหารทะเลอื่นๆก็ได้คะ
- ยำหัวปลี หรือจะกินหัวปลีกับผัดไทยก็อร่อยเช่นกันจ้า
เมนูแก้อาการแพ้ท้องคะ ก็คือ ข้ามต้มข้าวซ้อมมือใส่หมูสับ ตับ และเนื้อปลา ช่วยได้ค่ะ
เมนูแก้ตะคริว ถ้าร่างกายได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ ลูกในท้องจะดึงแคลเซียมจากร่างกายคุณแม่ไปใช้สร้างกระดูกและฟันในปริมาณมาก จึงทำให้คุณแม่เป็นตะคริวได้คะ เมนูแก้ตะคริวคะ คือ เปาะเปรี๊ยกล้วยหอม ข้าวผัดกุ้งแห้ง ยำตำลึงกุ้งฝอย แค่นี้คุณแม่ก็จะหายจากการเป็นตะคริวแล้วละคะ Ouy ขอให้คุณแม่สนุกกับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ และที่สำคัญคือ เพื่อลูกน้อยของเราคะ ^^
วันเสาร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2553
โคลิค (colic)
- พยายามเบียงเบียนความสนใจของลูกน้อยไปที่สิ่งของอื่นๆ เช่น หาของอะไรให้ลูกเล่นที่มีเสียง ทำเสียงให้ลูกน้อยสนใจ เปิดเพลง สบายๆ ให้ลูกน้อยฟัง หรือจะร้องให้ลูกน้อยฟังเองก็ดีคะ
- พาลูกน้อยนั่งรถเล่น อาจจะช่วยได้
- อุ้มลูกน้อยพาดบ่า ลูบหลัง เป็นการปลอบโยน พาเดินไปเดินมา
- ควรจัดห้องที่เงียบๆ อากาศปลอดโปร่ง เพื่อเป็นการช่วยได้อีกทางคะ
- ให้ลูกน้อยนอนคว่ำบนขาคุณแม่เองหรือว่าจะเป็นกระเป๋าน้ำร้อนก็ได้คะ เป็นการทำให้ลูกน้อยรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย
- การนวดให้ลูกก็เป็นการช่วยได้ดีอีกวิธีหนึ่งคะ คือท่า I Love You โดยคุณแม่จะจับลูกน้อยนอนหงาย เอามือวางไว้ที่บริเวณชายโครงขวาของลูกนะคะ แล้วลูบไล้ลงมาข้างล่างตรงๆ เหมือนตัว I ต่อจากนั้นป้ายมือมาทางขวาของลำตัวลูกเพื่อทำเป็นตัว L ถัดไปลากมือขึ้นมาทางหน้าท้องโดยโค้งให้เหมือนตัว U
กว่าจะผ่านช่วง 3 เดือนแรกมาได้ คุณพ่อคุณแม่จะต้องมีความอดทนเป็นหลักเลยคะ อย่าแสดงอารมณ์เสียเพราะถึงคุณพ่อคุณแม่จะอารมณ์เสียไป ก็ช่วยอะไรลูกน้อยไม่ได้ ใจเย็นๆ เตรียมพร้อมรับมือ เพราะแต่ละวิธีอาจจะใช้ได้กะเด็กบางคน สำหรับบางคน อาจจะใช้วิธีเดียวกันไม่ได้ ต้องเปลี่ยนไปเรื่อยๆดูว่าวิธีไหนเหมาะสำหรับลูกน้อยของเรา สู้..สู้ คะ
วันอังคารที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2553
เพิ่มพลัง สมาธิ ให้ลูกสมาธิสั้น
- ลดสิ่งเร้าให้น้อยลง ให้ลูกอยู่ในบรรยากาศที่มีสิ่งกระตุ้นน้อยที่สุด หาของให้เด็กนั่งเล่นในสถานที่เงียบๆ ไม่ควรพาลูกไปเที่ยวในสถานที่คนพลุกพล่าน จะเป็นการกระตุ้นให้เด็กซน อยู่ไม่นิ่ง ไม่ฟัง ควบคุมได้ยาก ลดการดูโทรทัศน์ เพราะการดูโทรทัศน์มากเกินไปและนาน จะทำให้เด็กขาดสมาธิ
- สร้างสมาธิเพิ่มขึ้น โดยการฝึกให้ลูกนั่งสมาธิ วันละ 30 นาที นั่งสมาธิตามลมหายใจ หายใจเข้า - พุท หายใจออก - โท การนั่งสมาธิจะทำให้เด็กมีควาสงบ ควรจะทำเป็นกิจวัตรประจำวัน
- การใช้คำสั่งกับเด็กสมาธิสั้น ควรจะใช้คำสั่งที่ง่ายๆและสั้น สั่งเพียง 2 ครั้ง คำสั่งต้องชัดเจน ควรจะออกคำสั่งช่วงที่เด็กมีสมาธิและควรออกคำสั่งในทางบวก เช่น ถ้าลูกตะโกน แทนที่จะดุลูกว่า หยุด ตะโกนได้มั้ย ก็เปลี่ยนเป็น แม่อยากให้หนูพูดเบาๆ
บทพูดนำการทำสมาธิลมหายใจ (12 นาที)
จากนี้ไปจะเป็นการทำสมาธิลมหายใจ...
ขอให้เด็กๆหลับตา...ปล่อยวางเรื่องต่างๆลงชั่วคราว
ขณะนี้ขอให้มีความรู้ตัว คือรู้ลมหายใจเข้าและลมหายใจออก
ลมหายใจเข้า ให้นึกในใจว่า พุธ
ลมหายใจออก ให้นึกในใจว่า โธ
ค่อยๆประคองให้จิตใจอยู่กับลมหายใจเข้าและออกอย่างต่อเนื่อง
หากมีความคิดเรื่องอื่นแทรกเข้ามา เด็กๆไม่ต้องสนใจ ต่อความคิดเหล่านั้น ขอให้ใส่ใจที่ลมหายใจเข้าและออกเพียงอย่างเดียว...(เว้นช่วงเวลาให้นิ่งสงบนาน 12 นาที)
ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก...ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก...ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก...
(เมื่อครบ 12 นาที) ขอให้ค่อยๆดึงความรู้สึกตัวกลับมาเป็นปกติ แล้วลืมตาขึ้นมาช้าๆ พร้อมกับจิตใจที่แจ่มใส สงบสุข มีพลังสมาธิ สติปัญญาเฉลียวฉลาดเป็นเลิศ
วันศุกร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2553
การออกกำลังกาย สำหรับคุณแม่ท้อง (exercise for pregnant mothers)
บริหารกล้ามเนื้อหน้าท้อง >> เพื่อกระชับหน้าท้อง
- นอนหงาย ตั้งเข่า เท้าวางราบกับพื้น แยกขาและเข่าออกเล็กน้อย
- ยกมือทั้งสองข้างขึ้นประคองที่หลังหูและท้ายทอย
- หายใจออก และค่อยๆยกศีรษะ ไหล่และอกขึ้นอย่างช้าๆ พร้อมกับเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องพยายามอย่ายกแต่ศีรษะ
- อยู่ในท่านี้ค้างไว้สัก 2-3 นาที แล้วค่อยนอนราบตามเดิม
- ทำท่านี้หลายๆครั้ง
- คุกเข่า แล้วค่อยๆ โน้มตัวลงไปกับพื้น พร้อมกับแขนทั้งสองข้างวางราบกับพื้อน
- ไม่ต้องเกร็งหลัง พยายามผ่อนคลายไหล่ หลัง และกระดูกสันหลังให้มากที่สุด อยู่ในท่านี้ 10 นาที
- ทำซ้ำ 2-3 ครั้ง
บริหารกล้ามเนื้อต้นขา >> เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อต้นขา เพิ่มความยืดหยุ่นให้กล้ามเนื้อเชิงกรานและสะโพก
- นั่งราบกับพื้น แล้วค่อยๆจับขาทั้งสองข้างให้ส้นเท้าชนกัน
- โน้มตัวมาข้างหน้าเล็กน้อย โดยไม่ยกสะโพกขึ้นจากพื้น
- อยู่ในท่านี้ 10 วินาที แล้วพัก
- ทำซ้ำ 2-3 ครั้ง
- อยู่ในท่าคุกเข่าคลาน ขาและแขนตั้งฉาก พยายามเกร็งหลังตรง อย่าให้แอ่นลงตามน้ำหนักท้อง
- ค่อยๆดึงหลังโก่งขึ้น โดยก้มศีรษะลง
- อยู่ในท่านี้สัก 2-3 นาที แล้วกลับมาอยู่ในท่าเริ่มต้น
- ทำซ้ำ 10-15 ครั้ง
บริหารกล้ามเนื้อหลังด้านล่าง >> เพื่อคลายอาหารปวดหลัง บริเวณชายกระเบนเหน็บ
- นอนหงาย ใช้มือทั้งสองข้างจับใต้เข่า ยกเข่าขึ้นมา
- คุณแม่จะรู้สึกผ่อนคลายช่วงเอวและชายกระเบนเหน็บอยู่ในท่านี้สัก 10 วินาที
- ทำซ้ำ 2-3 ครั้ง
- อยู่ในท่าคุกเข่าคลาน แขนและขาตั้งฉาก เกณ้งหลังตรง
- ค่อยๆยกสะโพกขึ้นเป็นวงกลม 4-5 ครั้ง
- สลับมาโยกอีกทางหนึ่ง 4-5 ครั้งเช่นกัน
- เมื่อบริหารเสร็จแต่ละครั้ง ให้นอนตะแคงนิ่งๆสัก 2-3 นาที
- ดึงเข่าข้างที่อยู่ด้านบนขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อให้ผ่อนคลายที่สุด
- เตรียมหมอนใบเล็กๆ สักใบไว้รองใต้เข่าที่ยกขึ้นมาด้วย ก็จะสบายขึ้นอีกนะคะ