Welcom to new mom blog

ยินดีต้อนรับคุณพ่อ คุณแม่มือใหม่ แชร์ประสบการณ์และหาความรู้เพิ่มเติม

วันอาทิตย์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เสียงเพลงกับพัฒนาการลูกน้อยในครรภ์

ว่าที่คุณแม่หลายคนมีข้อสงสัยว่า เมื่อไหร่ควรจะเริ่มเปิดเพลงให้ลูกน้อยในครรภ์ฟังหรือจะเปิดเพลงอะไรดี จริงๆ แล้วเวลาที่เหมาะกับการเริ่มเปิดเพลงให้ลูกฟังนั้น ควรจะเริ่มเปิดเพลงที่คุณแม่ชื่นชอบ ฟังแล้วรู้สึกมีความสุขสบายอารมณ์ไปพร้อมๆกับลูกน้อย ซึ่งจะเริ่มได้ในช่วงตั้งครรภ์ 5 เดือน
เนื่องมาจากเดือนที่ห้า พัฒนาการของทารกจะมีอวัยวะครบทุกส่วน ร่างกายสมบูรณ์แล้วโดยเฉพาะประสาทการรับรู้ได้ได้ยิน สิ่งที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งคือ คนทั่วไปมักเข้าใจว่าเพลงที่จะเสริมสร้างสมองให้ลูกต้องเป็นเพลงคลาสสิกหรือต้องโมซาร์ทเท่านั้น ความจริงแล้วคุณแม่สามารถฟังเพลงได้ทุกประเภทที่ชอบ อาจจะเป็นบทสวดมนต์ เพลงไทยเดิม หรือดนตรีที่มีโน๊ตจากเครื่องดนตรีประเภทใดประเภทหนึ่งก็ได้ เพราะถ้าหากคุณแม่มีความสุขทารกที่อยู่ภายในครรภ์จะได้รับความสุขไปด้วย มีผู้เชี่ยวชาญได้ให้ข้อสังเกตุที่น่าฟังไว้ว่า การสังเกตุว่าลูกมีการตอบสนองหรือไม่นั้น เวลาที่คุณพ่อหรือคุณแม่เปิดดนตรีให้ลูกฟัง หากเป็นเพลงที่ฟังง่ายๆ สบายๆ ทั้งคุณแม่และลูกน้อยจะผ่อนคลาย หากเป็นเพลงที่มีจังหวะเร็ว ลูกจะดิ้นแรงมีปฏิกิริยาตอบสนอง โดยคลื่นเสียงช่วยปรับให้สมองมีการพัฒนาด้านดนตรี
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ช่วงรอเวลานับถอยหลังเพื่อพบหน้าตาจิ้มลิ้มของลูกน้อย คุณพ่อคุณแม่ก็อย่าลืมหาเพลงไพเรอะที่ชอบมาเปิดให้ลูกน้อยในครรภ์ฟัง เมื่อคลอดออกมาก็จะเป็นหนูน้อยอารมณ์ดีมีความสุขสมดั่งใจคุณพ่อคุณแม่

วันอาทิตย์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

การฝึกลูกน้อยนั่งกระโถน

ได้เวลาคุณแม่มือใหม่ ฝึกลูกน้อยนั่งกระโถนกันค่ะ ซึ่งคุณแม่เริ่มที่จะฝึกลูกน้อยได้ช่วงที่ลูกน้อยเริ่มนั่งได้ จะอยู่ในช่วง 6 เดือน ก็สามารถฝึกลูกน้อยให้นั่งกระโถนได้แล้วล่ะค่ะ แต่ต้องคอยจับหลังให้ลูกด้วย เพราะลูกน้อยจะไม่ชินกับการนั่งกระโถน จะดิ้นไป ดิ้นมา คุณแม่ต้องใจเย็นๆ ค่อยๆฝึกลูกน้อยไปทีละนิดละหน่อยค่ะ เรื่องที่จะให้ลูกน้อยนั่งกระโถน เพื่อเป็นการฝึกการขับถ่าย ซึ่งเด็กแต่ละคนจะประสบความสำเร็จไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับพัฒนาการของเด็กแต่ละคนว่าพร้อมมากน้อยแค่ไหนค่ะ มาดูเทคนิคเล็กๆน้อยในการฝึกลูกน้อยนั่งกระโถนกันค่ะ
  • คุณแม่ลองเอากระโถนไว้ในห้องน้ำหรือที่ที่ที่ลูกน้อยสามารถมองเห็นได้ชัด และบอกให้ลูกน้อยทราบว่ากระโถนนี้ใช้เพื่อทำอะไร
  • หากลูกน้อยถ่ายอุจจาระเป็นเวลาในแต่ละวัน คุณแม่อาจจะถอดผ้าอ้อมลูกน้อยออก แล้วชักชวนให้ลูกน้อยไปถ่ายใส่กระโถนดูบ้าง ถ้าลูกน้อยทำท่าไม่พอใจหรือว่าหงุดหงิดที่จะถ่ายใส่กระโถน ก็ให้กลับไปใส่ผ้าอ้อมเหมือนกัน แล้วค่อยลองใหม่ในอีก 2 อาทิตย์ถัดไป
  • กระโถนที่มีสีสรรหรือลวดลายการ์ตูนก็อาจจะดึงดูดความสนใจของลูกน้อยได้ค่ะ
  • เมื่อลูกน้อยส่งสัญญาณว่าอยากจะไปถ่ายไม่ว่าจะถ่ายหนักหรือว่าเบา คุณแม่ลองพาไปนั่งกระโถนหรือว่าเข้าห้องน้ำ แต่ถ้าไม่ทันลูกน้อยทำเลอะเทอะเสียก่อน ไม่ควรตำหนิหรือว่าทำโทษลูกน้อย แต่ให้บอกและเชิญชวนให้นั่งกระโถนหรือว่าเข้าห้องน้ำ ในอาทิตย์ถัดไปให้คุณแม่ลองใหม่อีกครั้ง
  • ในช่วงปลายขวบปีแรก คุณแม่อาจสังเกตเห็นได้ว่า หลังจากกินนมไปได้ 10-15 นาที ลูกน้อยจะเกิดความรู้สึกอยากจะถ่าย คุณแม่อาจจะเริ่มสอนเค้าให้คุ้นเคยกับกระโถน โดยการจับเค้านั่งกระโถนแล้วประคองไว้อย่างนั้น จนกว่าจะถ่ายอุจจาระออกมาเรียบร้อยแล้ว ให้ทำอย่างนี้สักประมาณ 2 สัปดาห์ลูกน้อยจะเรียนรู้ด้วยตัวเองว่า เมื่อเขากินนมไปประมาณ 10-15 นาที เขาต้องถ่ายอุจจาระหรือว่าปัสสาวะ ก็เป็นการเริ่มต้นการฝึกการขับถ่ายที่ดีค่ะ
  • ก่อนที่ลูกน้อยจะนั่งกระโถน คุณแม่อาจจะชวนลูกน้อยว่า ฉี่หน่อยนะลูก หรือ อึหน่อยน่ะค่ะ แล้ว พูดว่า ฉี่...ฉี่ หรือ อึ...อึ ตามไปด้วยเมื่อลูกน้อยเสร็จกิจ ก็ชมเชยลูกน้อยสักหน่อยว่า ลูกเก่งจังเลยน่ะจ๊ะ ก็จะเป็นการสร้างความภูมิใจให้กับลูกน้อย
  • การสังเกตอาการ หรือสีหน้าของลูกน้อยที่แสดงให้เห็นว่าเขาอยากกจะถ่ายแล้ว คุณแม่ควรถามลูกน้อยตรงๆว่า ตอนนี้หนูปวดฉี่หรือเปล่าจ๊ะ เมื่อคุณถามตรงๆแบบนี้ ลูกน้อยก็จะเริ่มเรียนรู้ว่า เมื่อเขาอยากจะถ่ายจะต้องบอกก่อนทุกครั้ง
น้องเอ่เอ้เริ่มนั่งกระโถนครั้งแรก ร้องไห้ใหญ่เลยค่ะ Ouy เว้นไปสัก 2 อาทิตย์ ก็เริ่มใหม่ เค้าเริ่มไม่ร้องไห้ เปลี่ยนเป็นเล่นซะงั้น นั่งไม่นิ่งเท่าไหร่ จับโน่น นี่ ไปเรื่อยๆ คุณแม่ต้องคอยจับไว้ตลอดเลยค่ะ ยังไงซะก็ขอให้คุณแม่มือใหม่ทุกคนฝึกลูกน้อยนั่งกระโถนกันสำเร็จน่ะค่ะ..^^ (อย่าลืมค่ะ ต้องใจเย็นๆด้วยน่ะค่ะ)

วันเสาร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

หลากหลายวิธี การคุมกำเินิด คุณแม่หลังคลอด

การวางแผนการคุมกำเนิดแต่ละวิธี ต่างมีข้อดี ข้อเสีย ที่แตกต่างกันไป คุณแม่มือใหม่หลังจากการคลอดลูกน้อยแล้ว ก็ต้องมีการวางแผนในการคุมกำเนิด ซึ่งคุณแม่มือใหม่ สามารถเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุดคะ
  • ยาเม็ดคุมกำเนิด ข้อดีคือ มีประสิทธิภาพสูง หาซื้อง่าย สามารถหยุดยาได้ทันทีที่ต้องการ ข้อเสียคือ อาจจะเกิดอาการข้างเคียง เช่น อ้วน ทำให้กินข้าวได้เยอะ ปวดศรีษะ คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียน ซึ่งอาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นเฉพาะบางคนเท่านั้น ยาเม็ดคุมกำเนิดไม่เหมาะสำหรับคุณแม่มือใหม่เท่าไหร่คะ เพราะว่าคุณแม่จะต้องเลี้ยงลูกไปด้วย ทำงานไปด้วย อาจจะลืมทานยาได้ การจะให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ผู้ใช้ยาต้องรับประทานยาให้ตรงเวลาและต่อเนื่อง การลืมรับประทานยาตั้งแต่ 2 เม็ดขึ้นไป อาจจะทำให้ตั้งครรภ์ได้คะ
  • ยาฉีดคุมกำเนิด เป็นฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนอย่างเดียว ฉีด 1 เข็ม อยู่ได้ 3 เดือน ข้อดี คือ สะดวก ราคาไม่แพง ไม่ต้องรับประทานยาเม็ด วิธีนี้เหมาะ สำหรับคุณแม่หลังคลอด ข้อเสียจะมีเลือดออกกะปริดกะปรอย หรือประจำเดือนขาดสูงกว่ายาเม็ดคุมกำเนิด
  • ยาฝังคุมกำเนิด เป็นฮอร์โมนในหลอดฝังอยู่ใต้ผิวหนังบริเวณต้นแขน คุณแม่ที่เลือกใช้วิธีนี้ ต้องห้ามยกของหนัก ต้องให้คุณหมอเป็นคนฝังเข็มให้ ข้อดี สามารถคุมกำเนิดได้นาน 3-5 ปี ข้่อเสีย จะมีเลือดออกกะปริกะปรอยตลอด (บางครั้งคุณแม่อาจจะหงุดหงิด ที่ต้องใส่โซฟีหรือผ้าอนามัยตลอดทั้งเดือน)
  • ห่วงอนามัย เป็นวัสดุรูปตัว T วางไว้ในโพรงมดลูก ทำให้โพรงมดลูกไม่เหมาะต่อการฝังตัวของตัวอ่อน วิธีนี้ยังไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนักในบ้านเรา ข้อดี สามารถคุมกำเนิดได้นาน 8-10 ปี ข้อเสีย มีสายโผล่ที่ปากมดลูกให้เห็น และมีโอกาสที่ห่วงจะหลุดหรือเคลื่อนที่ได้
การเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองให้มากที่สุด ก็ต้องปรึกษาคุณหมอก่อนนะคะ ยิ่งสำหรับคุณแม่หลังคลอดที่ต้องให้นมลูกน้อยด้วย ต้องปรึกษาคุณหมอ เพราะยาคุมบางชนิดจะทำให้น้ำนมหยุดไหลได้คะ ^^

วันเสาร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

10 สูตรสวยหลังคลอด ด้วยธรรมชาติ

เป็นคุณแม่มือใหม่(new mom)เต็มตัวแล้วนะคะ หลังคลอด แต่ก็อย่าปล่อยให้ใบหน้า มันวาว เป็นขุย ดูไม่จืดเอาเสียเลย แม้ว่าจะเป็นแม่ลูกอ่อนก็ต้องดูแลความสวยความงาม กลับคืนมา โดยที่ไม่ต้องไปเข้าคอร์สพอกหน้าอะไร ที่ไหนหรอกค่ะ ทำกันที่บ้านนี่แหละ สวยจากธรรมชาติ มีมาฝากหลายสูตรคะ เลือกให้เหมาะสมกับผิวของตัวเอง แล้วก็ลงมือ สวย กันคะ ^^
ผิวมัน คนที่ผิวมัน หน้าจะเป็นมันเยิ้มได้ง่าย นอกจากการล้างหน้าบ่อยๆแล้ว ยังมีวิธีที่ช่วยลดความมัน รูขุมขนกระชับ ขจัดไขมันที่อุดตัน ทำให้ผิวหน้าสดใส เกลี้ยงเกลา ไม่ควรใช้เครื่องสำอางที่ผสมน้ำมันเด็ดขาด
  • ไข่พอกหน้า ไข่ขาวและนมอย่างละ 1 ช้อนชา ตีให้เข้ากัน หยดน้ำผึ้งและน้ำมะนาวอย่างละ 2-3 หยด คนให้เข้ากัน ทาให้ทั่วใบหน้า ยกเว้นขอบดวงตาและริมฝีปาก ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น
  • ผักโปะหน้า หั่นแตงกวา หรือมันฝรั่งเป็นแว่นๆ (ไม่ต้องปอกเปลือก) วางไว้บนหน้า ทิ้งไว้สัก 15 นาที จะช่วยให้รู้สึกสดชื่น โดยเฉพาะช่วงที่อากาศร้อนๆคะ
  • ยีสต์ 1 ช้อนโต๊ะ (หรือ 1 ก้อน) ละลายน้ำพอเหลว ใช้ทาหน้าให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น
ผิวแห้ง คนที่ผิวหน้าแห้ง จะเป็นขุยและเห็นรอยเหี่ยวย่นได้ง่าย จึงต้องดูแลให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวเสมอ โดยเฉพาะรอบดวงตาซึ่งเป็นส่วนที่บอบบางมากที่สุด
  • น้ำผึ้งกับกล้วยน้ำว้า 1 ลูก ครูดเอาแต่เนื้อ ผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา ทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น
  • ไข่กับน้ำผึ้ง ใช้ไข่แดง 1 ฟอง ผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา พอกหน้าทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น
  • โยเกิร์ตกับนม ผสมโยเกิร์ตกับนมเปรี้ยวในอัตราส่วนที่เท่าๆกัน ทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น
ผิวธรรมดา ดูแลผิวให้สะอาดให้เสมอ เพื่อรักษาสภาพผิว ไม้ให้แปรเปลี่ยนเป็นสภาพอื่น
  • มะนาวกับน้ำผึ้ง เติมน้ำเดือดราว 2 ช้อนโต๊ะลงในน้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะ เติมน้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ ทิ้งไว้ให้อุ่น นำมานวดหน้าให้ทั่ว แล้วทิ้งไว้ 20 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น
  • แอปเบิ้ลกับน้ำผึ้ง แอปเบิ้ล 1 ลูก ปั่นไม่ต้องปอกเปลือก แต่ล้างให้สะอาด เหยาะน้ำผึ้งกับนมพร่องไขมันลงไปอย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ ใช้นวดหน้า ทิ้งไว้ 20 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น
  • สตรอเบอรี่กับเนยเหลว ใช้สตรอเบอรี่ 10 ผล ใส่เนยจืดและน้ำมะนาวอย่างละ 1 ช้อนชา ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น
สูตรผิวเย็นสดชื่น
  • ครีมสะระแหน่ สะระแหน่ 1 ช้อนโต๊ะ กับนม 1 ถ้วย ขึ้นตั้งไฟอ่อนๆ อย่าให้เดือด ประมาณ 5 นาที ยกลงตั้งไว้ให้เย็น กรองาะระแหน่ออก เติมน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน นำไปทาหน้า ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น จะทำให้รู้สึกได้ว่าสดชื่นขึ้นจริงๆคะ
เป็นไงบ้างคะ 10 สูตร เลือกให้เหมาะสมกับผิวหน้าของคุณแม่เองนะคะ แค่เนี้ย ความสวย จะไปไหนซะ แถมยังประหยัดเงินในกระเป๋าอีกด้วย ^^